กติกาการแข่งขันมวยไทยสมัยปัจจุบัน
กติกามวยไทยสมัยปัจจุบันจะถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนครอบคลุมทุกๆ เรื่อง การแข่งขันมวยไทย
ในปัจจุบันนักมวยต้องสวมนวมขนาด 4 ออนซ์ แต่งกายแบบนักกีฬามวยคือ สวมกางเกงขาสั้นสวมกระจับ สวมปลอกรัดเท้าหรือไม่ก็ได้ เครื่องรางของขลังผูกไว้ที่แขนท่อนบนได้ ส่วนเครื่องรางอื่นๆ ใส่ได้เฉพาะตอนร่ายรำไหว้ครูแล้วให้ถอดออกตอนเริ่มทำการแข่งขัน ในการแข่งขันมีกรรมการผู้ชี้ขาดบนเวที 1 คนกรรมการให้คะแนนข้างเวที 2 คน จำนวนยกในการแข่งขันมีกรรมการผู้ชี้ขาดบนเวที 1 คนกรรมการให้คะแนนข้างเวที 2 คน จำนวนยกในการแข่งขันมี 5 ยก ยกละ 3 นาที พักระหว่างยก 2 นาที การแข่งขันแบ่งเป็นรุ่นตามน้ำหนักตัวของนักมวยเหมือนกับหลักเกณฑ์ของมวยสากล อวัยวะที่ใช้ในการต่อสู้คือ หมัด เท้า เข่า ศอก เข้าชก เตะ ถีบ ถอง เป็นต้น ได้ทุกส่วนของร่างกายโดยไม่จำกัดที่ที่ชก แม่ไม้มวยไทยที่มีอันตรายสูงบางท่าถูกห้ามใช้เด็ดขาด อาทิ ท่าหลักเพชร เป็นท่าจับขาแล้วหักด้วยการนั่งทับ เป็นต้น สำหรับรายละเอียดของกติกาแต่ละข้อจะปรากฏในภาคผนวก
การจำแนกรุ่น มี 19 รุ่น ดังนี้
1. รุ่นพินเวท น้ำหนักต้องเกิน 93 ปอนด์ (42.272 กิโลกรัม) และไม่เกิน 100 ปอนด์
(45.454 กิโลกรัม)
2. รุ่นมินิฟลายเวท น้ำหนักต้องเกิน 100 ปอนด์ (45.454 กิโลกรัม) และไม่เกิน 105 ปอนด์
(47.727 กิโลกรัม)
3. รุ่นไลท์ฟลายเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 105 ปอนด์ (47.727 กิโลกรัม) และไม่เกิน 108 ปอนด์
(48.988 กิโลกรัม)
4. รุ่นฟลายเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 108 ปอนด์(48.988 กิโลกรัม)และไม่เกิน 112 ปอนด์
(50.802 กิโลกรัม)
5. รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 112 ปอนด์(50.802 กิโลกรัม)และไม่เกิน 115 ปอนด์
(52.163 กิโลกรัม)
6. รุ่นแบนตั้มเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 115ปอนด์(52.163 กิโลกรัม)และไม่เกิน 118 ปอนด์
(53.524 กิโลกรัม)
7. รุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน118ปอนด์(53.524 กิโลกรัม)และไม่เกิน 122 ปอนด์
(55.338 กิโลกรัม)
8. รุ่นเฟเธอร์เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 122ปอนด์(55.338 กิโลกรัม)และไม่เกิน 126 ปอนด์
(57.153 กิโลกรัม)
9. รุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 126 ปอนด์(57.153 กิโลกรัม)และไม่เกิน130 ปอนด์
(58.967 กิโลกรัม)
10. รุ่นไลท์เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 130 ปอนด์(58.967 กิโลกรัม)และไม่เกิน 135 ปอนด์
(61.235 กิโลกรัม)
11. รุ่นซูเปอร์ไลท์เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 135 ปอนด์(61.235 กิโลกรัม)และไม่เกิน 140 ปอนด์
(63.503 กิโลกรัม)
12. รุ่นเวลเตอร์เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 140 ปอนด์(63.503 กิโลกรัม)และไม่เกิน 147 ปอนด์
(66.678 กิโลกรัม)
13. รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 147 ปอนด์(66.678 กิโลกรัม)และไม่เกิน
154 ปอนด์ (69.853 กิโลกรัม)
14. รุ่นมิดเดิลเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 154 ปอนด์(69.853 กิโลกรัม)และไม่เกิน 160 ปอนด์
(71.575 กิโลกรัม)
15. รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 160 ปอนด์(71.575 กิโลกรัม)และไม่เกิน
168 ปอนด์ (76.374 กิโลกรัม)
16. รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 168 ปอนด์(76.374 กิโลกรัม)และไม่เกิน 175 ปอนด์
(79.379 กิโลกรัม)
17. รุ่นฟลายเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 175 ปอนด์(779.379 กิโลกรัม)และไม่เกิน 190 ปอนด์
(86.183 กิโลกรัม)
18. รุ่นเฮฟวี่เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 190 ปอนด์(86.183 กิโลกรัม)และไม่เกิน 200 ปอนด์
(90.900 กิโลกรัม)
19. รุ่นซูเปอร์เฮฟวี่เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 200 ปอนด์ขึ้นไป(90.900 กิโลกรัมขึ้นไป)
|